ศาลสมุทรสาคร เพิกถอนสาวใช้จากผู้จัดการมรดก คืนสิทธิทายาท "ศิลาสุวรรณ" โดยชอบธรรมเพียงผู้เดียว ... - สื่อปฏิรูป DAILY

((((( พื้นที่โฆษณา )))))

Breaking

Post Top Ad



วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ศาลสมุทรสาคร เพิกถอนสาวใช้จากผู้จัดการมรดก คืนสิทธิทายาท "ศิลาสุวรรณ" โดยชอบธรรมเพียงผู้เดียว ...

มหากาพย์ทวงคืนความยุติธรรม "บ้านศิลาสุวรรณ์" ศาลสมุทรสาคร  เพิกถอนสาวใช้จากผู้จัดการมรดก คืนสิทธิทายาทโดยชอบธรรมเพียงผู้เดียว ...

คดีมรดก 500 ล้าน "บ้านศิลาสุวรรณ" ใกล้ถึงบทสรุป — ศาลสมุทรสาคร มีคำสังเพิกถอนการแต่งตั้งสาวใช้จากผู้จัดการมรดก แต่งตั้งทายาทโดยชอบธรรมเพียงผู้เดียว ...

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรสาครมีคำสั่ง เพิกถอนการแต่งตั้งสาวใช้จากผู้จัดการมรดก และแต่งตั้ง ทายาทโดยชอบธรรมเพียงผู้เดียว เป็นผู้จัดการมรดกแทน
ทายาทเตรียมเรียกทรัพย์เข้ากองมรดก เพื่อสั่งให้ทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 500 ล้านบาท ที่ถูกโอนออกไปมิชอบ ต้องถูกเรียกคืนเข้ากองมรดกเพื่อแบ่งปันทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ย้อนรอยคดี: จากเศรษฐีนีใจบุญสู่คดีสะเทือนสังคม นางวีณา ศิลาสุวรรณ เศรษฐีนีผู้มีชื่อเสียงด้านการกุศลใน จ.สมุทรสาคร ได้เสียชีวิตลงเมื่อปี 2564 โดยทิ้งทรัพย์สินจำนวนมหาศาลไว้ให้ครอบครัว แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น — สาวใช้คนสนิท ได้อ้างตนเป็นบุตรบุญธรรมและเข้ายื่นขอจัดการมรดก

บทบาทของ “ธัญญรส รัตนณวัฒนสกุล” พยานผู้เปิดโปง
น.ส.ธัญญรส รัตนณวัฒนสกุล อดีตลูกจ้างฝ่ายทะเบียน อ.เมืองสมุทรสาคร ได้ตรวจพบว่ามีการนำ ลายเซ็นปลอม ของเธอไปใส่ในเอกสารรับบุตรบุญธรรม โดยอ้างว่าเธอเป็นพยานในวันเซ็นเอกสาร ทั้งที่เธอไม่เคยเกี่ยวข้อง เธอจึงลุกขึ้นมาเป็นพยานเบิกความต่อศาล และนับเป็น กุญแจสำคัญ ที่ทำให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมดังกล่าว ส่งผลให้สาวใช้หมดสิทธิ์ในกองมรดกมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดโปงความจริง ธัญญรสกลับถูกกลั่นแกล้ง  ถูกประเมินไม่ผ่านงานเพราะ ขาดคุณธรรม – จริยธรรม โดย ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร โดยไม่ชี้แจงข้อเท็จจริง ว่า ขาดคุณธรรมอย่างไร และ ถูกให้ออกจากงาน ทั้งที่ทำงานมากว่า 10 ปีโดยไม่เคยมีความผิดวินัย นำไปสู่การร้องขอความเป็นธรรมต่อสังคม

นายรัชต์พล ศิลาสุวรรณ ให้ข้อมูลว่า เมื่อ 1 มกราคม 2567 ศาลได้เพิกถอนทะเบียนรับบุตรบุญธรรมของสาวใช้  และ 3 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 9.00น ศาลอุทธรณ์ชำนาญพิเศษได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ในคดีมรดกมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท
ล่าสุด 19 ส.ค. 2568 ศาลจังหวัดสมุทรสาครเพิกถอนการแต่งตั้งสาวใช้เป็นผู้จัดการมรดก และตั้งทายาทโดยชอบธรรมเป็นผู้จัดการเพียงผู้เดียว
หลังจากนี้ทายาทมีอำนาจในการดำเนินการแล้ว ทางทายาทคงจะดำเนินการศาลจะมีคำสั่งให้เรียกคืนทรัพย์สินเข้ากองมรดก และเปิดทางดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และความผิดตามมาตรา 157 และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

นาย ณัฐวัฒน์ รัตนณวัฒนสกุล ผู้ก่อตั้ง คดีผู้บริโภค และ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต – ภาคประชาชน
ได้ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ ตนทำงานในเงามาตลอด รับเรื่องร้องเรียนช่วยเหลือประชาชนไม่เคยรับเงินใคร มีคนตรวจสอบผมตลอดเพราะผมชอบขัดแข้งขัดขากับผู้มีอิทธิพลเป็นประจำ เพราะผมทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ความหวังอนาคตอยากเป็นนักการเมืองที่ดี แต่ด้วยความซื่อตรงไม่มีผู้ใดกล้าสนับสนุนผมและ หากแฟนตนผิดตนก็จะลากเข้าคุกด้วยมือของตนเองมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ทั้งนี้ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้มีคนโทรมาสอบถามเรื่องนี้ ก่อนอยู่แล้วว่าทราบเรื่องไหม แต่ตนไม่ทราบ และถามภรรยาแล้วว่าทราบเรื่องไหม ภรรยา ก็ไม่คุ้นว่ามีคนมาทำเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ทายาทร้องสื่อ คือ บริษัท มหาชัยเคเบิลทีวี จำกัด เราเลยทราบข่าวและก็สงสัยว่า มาทำกันตอนไหน จนหัวหน้างานของ ธัญญรส ได้ค้นเอกสารและได้ทักว่า มีชื่อของเธอเป็นพยาน เธอจึงโทรปรึกษา ผมก็พยายามเค้นเธอแล้ว แต่เธอบอกไม่ได้เซ็นจริงๆเราเขียนมือซ้ายแต่ลายมือมันมือขวา ถ้าไม่ได้เซ็นก็แนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ และผมเป็นคนชอบสืบหาความจริงอยู่แล้ว จึงได้ขอเบอร์นักข่าวเพื่อติดต่อทายาทเพื่ออยากทราบข้อเท็จจริง จึงได้นัดพบกันที่โรงพักแล้ว ลงประจำวันไว้ โดยทางทายาท แจ้งความ แต่ นส.ธัญญรส นั้น ไม่ได้แจ้งความใคร เพียงแค่ประจำวันไว้ เพราะไม่อยากดำเนินคดีกับเพื่อนร่วมงาน แต่เธอกลับถูกทั้งเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และ นายอำเภอ กลั่นแกล้งต่อว่าตลอดมา ทั้งจะให้เบิกความเท็จและให้กลับคำให้การ จนถูกประเมินให้ออกจากงาน ผมเชื่อว่าเพราะเธอไม่ยอมทำตามในสิ่งที่ผิด
อีกทั้ง คดีนี้สะท้อนภาพการแสวงหาประโยชน์จากผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะไม่พร้อมด้านสติปัญญา ขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นความกล้าหาญของลูกจ้างตัวเล็กๆ อย่าง น.ส.ธัญญรส ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความจริง แม้ต้องแลกด้วยหน้าที่การงานและความมั่นคงในชีวิต

วันนี้ คำพิพากษาของศาลจังหวัดสมุทรสาครไม่เพียงเป็นชัยชนะของทายาทตระกูลศิลาสุวรรณ แต่ยังเป็น การคืนความยุติธรรมให้แก่ธัญญรส ในเบื้องต้น และเป็นสัญญาณเตือนสังคมว่า ความจริงไม่มีวันถูกปิดบังตลอดไป

ทั้งนี้ นายณัฐวัฒน์ฯได้ให้ข้อสังเกตุว่า คดีนี้น่าจะเป็นเรื่องของการที่เจ้าหน้าที่บางท่านเข้าไปมีส่วนเกี่ยงข้องในการช่วยเหลือหรือเปล่า หรือรับรู้ในการทำธุรกรรมต่างๆ นายณัฐวัฒน์ ตั้งคำถาม  อย่างเช่นที่ดินเราก็จะดำเนินคดีในเร็วๆนี้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย และยังเป็นบริษัท ที่ สามีของสาวใช้อ้างเมื่อตรวจสอบแล้ว คงจะดำเนินคดี ในฐานฟอกเงินเช่นกัน และยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากใครกระทำผิดให้รีบออกมายอมรับ หนักจะได้เป็นเบา และ จะกันเป็นพยานให้ และช่วยเหลือทางคดีเท่าที่ทำได้ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก

ติดต่อร้องเรียน /ชี้แจง
ทีมข่าวอาชญากรรม
Tel .090-9445409

เต่า บินได้ ภาพ/ข่าว
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน

# คืนความยุติธรรม
#สาวใช้ฮุบมรดก 500ล้าน 
#บ้านศิลาสุวรรณ 
#ศาลจังหวัดสมุทรสาคร
# บริษัท มหาชัยเคเบิลทีวี จำกัด 
# ถกไม่เถึยง
# โหนกระแส
# เปิดปากกับภาคภูมิ
# เรื่องเด่นเย็นนี้
# PPTV 36

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

AD ท้ายข่าว Post Bottom Ad



Pages