มทร.ธัญบุรี ผนึกพันธมิตรตั้ง “AI Center for SME” ปักหมุดศูนย์กลางนวัตกรรม หนุนผู้ประกอบการไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIEAT) และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย (The Federation of Thai SME Association) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ จัดตั้งศูนย์ปัญญาประดิษฐ์สำหรับเอสเอ็มอี (AI Center for SME) อย่างเป็นทางการ เพื่อผลักดันการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคและสากล ณ ห้องเมธาวี ชั้น 5 อาคารวิทยบริการ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มทร.ธัญบุรี
การก่อตั้งศูนย์ฯ มีเป้าหมายชัดเจนในการ สร้างระบบนิเวศด้าน AI สำหรับ SME โดยเน้นการบูรณาการองค์ความรู้จากภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และสมาคมวิชาชีพ เข้าสู่การใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมทั้ง การวิจัยและพัฒนา (R&D) การถ่ายทอดเทคโนโลยี การอบรมบุคลากร และการสร้างต้นแบบนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยให้ SME สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า ความร่วมมือนี้สะท้อนพันธกิจอีกบทบาทหนึ่งในการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนและประเทศชาติ โดยใช้ AI เป็นเครื่องมือในการยกระดับ SME โดยศูนย์ฯดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยได้เรียนรู้และทำงานร่วมกับภาคธุรกิจจริง อันจะนำไปสู่การสร้างกำลังคนคุณภาพสูงที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่
ด้าน ศ.ดร.กฤษณ์ชนม์ ภูมิกิตติพิชญ์ รองอธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า AI Center for SME เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้าน AI และเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงกับ SME เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สร้างรายได้เพิ่มให้กับ SME ด้วย แพลตฟอร์ม AI ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับบริบทของ SME นั้น ๆ เนื่องจาก SME คือฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ถ้า SME ของประเทศไทย เข้มแข็งจะส่งผลโดยตรงให้ประเทศไทยสามารถสร้างนวัตกรรม สร้างมูลค่าเพิ่ม และแข่งขันกับตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ ดร.ชาญวิทย์ บุญช่วย นายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIEAT) กล่าวถึงแนวทางดำเนินงานว่า ศูนย์ฯ จะมุ่งเน้นการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในสาขาหลักที่ SME ไทยมีศักยภาพสูง เช่น การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming), การผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing), การค้าปลีกดิจิทัล และการบริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมพัฒนาโมเดลต้นแบบที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในธุรกิจ ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปิดศูนย์ แต่คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับเศรษฐกิจไทย
ส่วน ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เน้นย้ำว่า ความร่วมมือนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดของ SME ไทยในเรื่องการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่งจะเป็นเหมือนคลินิกธุรกิจสำหรับ SME ที่ต้องการใช้ AI เพื่อปรับตัวและเติบโต ลดต้นทุนการลงทุนด้านเทคโนโลยี และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก
การจัดตั้ง AI Center for SME นี้ เป็นความร่วมมือกันหลายภาคส่วน ทั้งภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และเครือข่าย SME ในการสร้างอนาคตเศรษฐกิจไทยที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยศูนย์ฯ จะเริ่มเดินหน้ากิจกรรมและโครงการนำร่องตั้งแต่ปลายปีนี้ เพื่อปูทางไปสู่การเป็น ศูนย์กลางความร่วมมือด้าน AI สำหรับ SME แห่งแรกของประเทศ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น